จิตมนุษย์นั้นไซร้...ยากแท้ หยั่งถึง


       "หลังจากดูเรื่องคน-โลก-จิต จบ ผมนอนไม่หลับจนถึงเช้า!

       ไม่ใช่เพราะว่าหนังสยดสยอง หวาดเสียว น่ากลัว จนทำให้นอนไม่หลับ หากแต่ตัวหนังเองแม้จะจบไปแล้วแต่ยังคงทิ้งเรื่องราวต่างๆ มากมายให้กลับไปครุ่นคิดต่อ นับเป็นหนังไม่กี่เรื่องที่เคยดูแล้วทำให้ต้องกลับไปคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เข้าทำนอง "หนังจบแต่คนไม่จบ"


        คน-โลก-จิต เป็นหนังที่ำนำเสนอถึงอีกด้านของคน อีกมุมหนึ่งของชีวิตที่หลบซ่อนอยู่ในตัวของคนเราทุกคน หนังสื่อให้เห็นว่าคนเราทุกคนล้วนมีด้านมืดของชีวิต ล้วนมีปมในจิตใจที่เก็บซ่อนไว้ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น คนเราทุกวันนี้ต่างพยายามซ่อนโลกที่ว่าอยู่ในก้นบึ้งของจิตใจ พยายามบิดเบือนความสวยงามของโลกใบนี้ให้เป็นในสิ่งที่ตนอยากเป็นเืพื่อหลีกหนีจากปมหรือสิ่งที่เก็บอยู่ลึกภายในใจนั้น โดยผ่านตัวละคร 4 ตัวที่แม้บทบาทจะต่างกันแต่ก็เป็นตัวเชื่อมโยงเนื้อเรื่องให้เป็นหนึ่งเดียวกัน สื่อให้เห็น "ปม "และ "โลกอีกใบ" ที่อยู่ในตัวของแต่ละคน ได้แก่ "เขื่อน" "คีย์" "เทียน" และ "กวาง"



       "เขื่อน" (อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์) คือนักจิตวิทยาชื่อดังผู้มีความสามารถในการอ่านจิตใจฆาตกรที่มีปมในอดีตบางอย่างฝังใจได้มาพบกับ "กวาง" (อาภา ภาวิไล) เด็กสาวที่เขาเคยช่วยเหลือไว้จากคดีล่วงละเมิดทางเพศโดยพ่อ เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งการเจอกันครั้งนี้เองทำให้เขื่อนคิดว่าบางทีการที่เขาเข้าไปช่วยกวางในครั้งนั้นโดยใช้หลักจิตวิทยาอาจเกิดข้อผิดพลาดก็เป็นได้และเมื่อ "คีย์" (ศรัณญู ประชากริช) เพื่อนเก่าของเขื่อนได้ก้าวเข้ามาในชีวิตของเขาก็ยิ่งทำให้ปมต่างๆ ในอดีตที่เขาเก็บซ่อนไว้ ค่อยๆเผยออกมาโดยมี "เทียน" (บุญยิสา จันทราราชัย) แฟนสาวของเขาที่มีปมบางอย่างในจิตใจเช่นกันคอยสังเกตเห็น


 
       แม้ว่า theme ของหนังจะมีส่วนคล้ายเรื่อง "เฉือน" อยู่บ้างในบางประเด็น หากแต่ตัวหนังเองกลับมีความดึงดูดทำให้น่าดู น่าติดตามกว่าเรืองเฉือนมาก หนังเลือกที่จะเล่นกับจิตใจและจิตใต้สำนึกของมนุษย์มากกว่าที่จะเล่นเรื่องฆาตกรรมสยดสยอง หนังเลือกที่จะใช้เพลงที่ดูออกจะ "โรคจิต" หน่อยๆประกอบหนังอยู่เป็นระยะๆ และที่สำคัญคือหนังต้องการที่จะสื่อให้เห็นว่า แท้จริงแล้วคนเราทุกคนล้วนแล้วแต่ "เป็นโรคจิต" และ มี "โลกส่วนตัว" กันแทบทุกคนเพียงแต่โลกอีกใบของใครต่างหาก ที่กล้าจะเปิดเผยตัวตนต่อโลกแท้จริง!
       มีเนื้อหาอยู่ตอนหนึ่งในหนัง ที่เขื่อนบอกทุกคนว่า คนเราทุกวันนี้มัวแต่กังวลว่าจะลบจุดสีดำเล็กๆที่อยู่บนกระดาษขาวอย่างไรแทนที่จะคิดว่าจะทำอย่างไรกับพื้นที่สีขาวนั้น ถือเป็นจุดที่ตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่าคนเราทุกคนนั้นมักคิดถึง "จุดดำ" ในจิตใจของตนมากกว่าจะคิดถึงเรื่อง "พื้นที่ขาว" ที่อยู่รอบตัว  แม้บางคนจะพยายามเลือกที่จะลืมจุดดำนั้นโดยอาศัยพื้นที่ว่างสีขาวเป็นตัวดึงดูดชักจูงให้คนมองในพื้นที่สีขาวเฉกเช่นเดียวกับที่เขื่อนทำก็ตามแต่อย่าลืมว่า "จุดดำ" นั้น ก็ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน สรุปให้ง่ายขึ้นก็คือคนเราไม่สามารถลบปมหรือจุดดำออกจากชีวิตของตนไปได้ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตามนั่นเอง

       หนังเรื่อง คน-โลก-จิต สร้างจากบทละครที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวด Thailand Script Project โดยได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่างคุณนนทรีย์ นิมิบุตร มาเป็นผู้ดำเนินงาน ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยดูหนังเรื่องอื่นๆ ที่คุณนนทรีย์ นิมิบุตร กำกับมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น  2499อันธพาลครองเมืองหรือหนังที่สร้างจากบทประพันธ์ัชั้นยอดอย่างจันดารา แต่จากการที่ผมได้มาดูหนังเรื่อง คน-โลก-จิต ที่ผู้กำกับมือทองคนนี้สร้างทำให้ผมเชื่อมั่นได้ว่าหนังเรื่องอื่นๆก็คงดีไม่แพ้กัน แต่ถึงอย่างไรหนังเรื่อง คน-โลก-จิต นี้ก็ยังคงเป็นหนึ่งในหนังในดวงใจของผมตลอดไปอย่างแน่นอน

       ทิ้งท้ายไว้สำหรับคนที่คิดจะไปชมหนังเรื่องนี้แต่กลัวว่าจะเป็นแบบหนังพื้นฐานทั่วๆไปที่เดาตอนจบได้ผมขอบอกว่า "ยาก" ครับ เพราะอะไรน่ะเหรอครับ ก็เพราะว่า "คนเราทุกคนล้วนแล้วแต่ซ่อนโลกอีกใบไว้ข้างใน......" นั่นเองครับ สวัสดี

                                                                                                                       
                                                                                          หนังมีไว้ดูผู้หญิงมีไว้รัก

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

1 ความคิดเห็น:

armopenmind กล่าวว่า...

ผู้หญิงที่อยู่ด้วยมีไว้ลำคาญปะ

แสดงความคิดเห็น